ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
|
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
|
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.๒๕๓๐ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๔๒ และฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยมีการหักเงินสมทบเข้ากองทุนระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ในอัตราฝ่ายละ ๒ % - ๑๕ % ของค่าจ้างรายเดือน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกจ้างมีการออมทรัพย์ และเป็นสวัสดิการที่มั่นคง สำหรับชีวิตในวัยเกษียณอายุหรือเมื่อลาออกจากงาน และยังเป็นหลักประกันให้แก่ครอบครัว ในกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอีกด้วย ซึ่งกองทุนดังกล่าวนี้มิได้บังคับ สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ ตามความสมัครใจ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุน
๑. เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้าง โดยเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่ลูกจ้างและครอบครัวว่าจะมีเงินก้อนไว้จับจ่ายใช้สอยหรือเลี้ยงชีพ หากต้องออกจากงานหรือครบเกษียณอายุ
๒. เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของลูกจ้าง
๓. เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดกับลูกจ้าง ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะเป็นการจูงใจ ให้ลูกจ้างอยู่ทำงานกับนายจ้างนาน ๆ
สิทธิประโยชน์ที่เกิดต่อสมาชิก
๑. เป็นหลักประกันของชีวิต และส่งเสริมการออมทรัพย์
๒. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
Ø เงินสะสมที่สมาชิกจ่ายภายในปีภาษีนั้น ๆ สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อน ในการคำนวณภาษีเงินได้ (หากเป็นการฝากกับธนาคาร ดอกเบี้ยที่ได้ จะถูกหัก ณ ที่จ่าย)
Ø ผลประโยชน์อันเกิดจากการนำกองทุนไปลงทุน จะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ทำให้สมาชิกได้ผลประโยชน์จากกองทุนอย่างเต็มที่
๓. มีความมั่นคงของกองทุน โดยกองทุนที่จดทะเบียนมีสภาพเป็นนิติบุคคล แยกต่างหากออกจากหน่วยงานเจ้าของกองทุนหากในอนาคต เกิดกรณีที่หน่วยงานเจ้าของกองทุนมีปัญหาทางด้านการเงินหรือเลิกกิจการไป เจ้าหนี้ของหน่วยงานไม่มีสิทธิยึดเงิน ในกองทุนนี้ ทำให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองในเงินส่วนสะสมของตน รวมทั้งเงินสมทบและผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ตนมีสิทธิ์จะได้รับอย่างเต็มที่
สมาชิกจะได้รับเงินกองทุนเมื่อไร
เมื่อสมาชิกลาออกจากกองทุน ผู้จัดการกองทุนต้องจ่ายเช็คระบุชื่อสมาชิกตามจำนวนที่ระบุในข้อบังคับกองทุน หลังจากหักภาษี ณ ที่จ่าย ส่งผ่านให้คณะกรรมการกองทุนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดสมาชิกภาพ
การจัดตั้งกองทุนทำอย่างไร
การจัดตั้งกองทุนนั้นจะต้องเป็นความตกลงร่วมกันของทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง โดยนายจ้างอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะจัดตั้งกองทุนแล้วจะต้องไปจดทะเบียนจัดตั้งกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
*************************************************************************
>> โครงสร้างของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ <<
๑. นายจ้าง
เป็นคนที่มีส่วนสำคัญในการก่อกำเนิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หากปราศจากนายจ้างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น นายจ้างจึงเป็นบุคคลที่มีความหวังดีต่อลูกจ้างในการให้สวัสดิการที่ดีเพื่อให้ลูกจ้างมีเงินก้อนไว้ใช้เมื่อเกษียณอายุ ออกจากงานหรือออกจากกองทุน นายจ้างทำหน้าที่หลักในการนำส่งเงินสะสมและสมทบเข้ากองทุน
๒.ลูกจ้าง
เป็นส่วนประกอบสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้น มีหน้าที่ยอมให้นายจ้างหักค่าจ้างเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนและต้องยินยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อบังคับกองทุน
๓. คณะกรรมการกองทุน
คณะกรรมการกองทุนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุด เป็นตัวแทนของนายจ้างและสมาชิกในการบริหารกองทุน ดูแลเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการประสานงานเพื่อจัดตั้งกองทุน คัดเลือกบริษัทจัดการ การกำหนดนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องกับโครงสร้างของกองทุน หรือแก้ไขข้อบังคับกองทุน เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญมากทีเดียว เนื่องจากอำนาจและหน้าที่บางอย่าง เช่น การแก้ไขข้อบังคับกองทุนจะมีผลผูกพันกับสมาชิกให้ต้องปฏิบัติตามและการกำหนดนโยบายการลงทุนจะมีผลต่อความมั่นคงและผลตอบแทนของกองทุน ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกบุคคลมาเป็นตัวแทนของนายจ้างหรือสมาชิกควรพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เลือกคนดีที่มีความรู้ความสามารถเป็นคนดีมีความตั้งใจจริง มีความเสียสละและสามารถอุทิศเวลาให้แก่เพื่อนๆ สมาชิกได้ในทำนองเดียวกัน คณะกรรมการกองทุนก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดด้วยความซื่อสัตย์สุจริตระมัดระวัง สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากนายจ้างและสมาชิก ทั้งนี้ คณะกรรมการกองทุนแบ่งเป็น
Ø คณะกรรมการกองทุนฝ่ายนายจ้าง นายจ้างจะเป็นคนแต่งตั้ง อาจจะไม่ได้เป็นลูกจ้างก็ได้
Ø คณะกรรมการกองทุนฝ่ายลูกจ้าง มาจากการเลือกตั้งของลูกจ้าง คนที่ได้รับเลือกจากลูกจ้าง อาจไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนอยู่ก็ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่จะกำหนดไว้ในข้อบังคับแต่ตามหลักแล้วคณะกรรมการกองทุนฝ่ายลูกจ้างก็ควรจะเป็นสมาชิกอยู่ในกองทุนเอง เพราะคงไม่มีใครเข้าใจสมาชิกได้ดีเท่ากับสมาชิกด้วยกันเอง
๔. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หรือเรียกย่อๆ ว่า " สำนักงาน ก.ล.ต." ทำหน้าที่ควบคุมดูแลบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจัดการ ผู้รับฝากทรัพย์สิน และผู้สอบบัญชี เป็นต้นและอีกบทบาทหน้าที่หนึ่งคือทำหน้าที่ในฐานะนายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในการรับจดทะเบียนจัดตั้งกองทุน การแก้ไขข้อบังคับกองทุนรวมทั้งควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนด้วย
๕. บริษัทจัดการ
ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการเงินของกองทุน โดยนำไปลงทุนเพื่อให้ออกดอกออกผลเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิกกองทุน ดังนั้น คณะกรรมการกองทุนต้องร่วมกันเลือกบริษัทจัดการที่เหมาะสมเข้ามาบริหารจัดการกองทุน โดยบริษัทจัดการจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลด้วย
๖. ผู้สอบบัญชี
ทำหน้าที่ตรวจสอบรายงานทางการเงิน รับรองความถูกต้องของข้อมูลตามรายงานทางการเงินของกองทุน ก่อนที่จะทำการเลือกผู้สอบบัญชีของกองทุน จะต้องทราบว่าสมาชิกในกองทุนมีจำนวนเท่าใด หากกองทุนที่มีจำนวนสมาชิกไม่เกิน ๑๐๐ ราย ให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไปตรวจสอบและแสดงความเห็นในงบการเงินของกองทุนได้ แต่หากกองทุนมีสมาชิกเกิน ๑๐๐ ราย ต้องให้ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบและแสดงความเห็นในงบการเงินของกองทุน
๗. ผู้รับฝากทรัพย์สิน
ทำหน้าที่ดูแลและเก็บรักษาทรัพย์สินของกองทุน ติดตามสิทธิประโยชน์ในเรื่องเงินปันผล และสิทธิต่างๆ ที่ได้จากการถือหุ้นในบริษัทที่กองทุนลงทุน โดยผู้รับฝากทรัพย์สินต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
๘. ผู้รับรองมูลค่า
ทำหน้าที่ตรวจทานการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของบริษัทจัดการว่าถูกต้องหรือเป็นไป ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เนื่องจากข้อมูล NAV มีความสำคัญต่อการคำนวณจำนวนหน่วยสำหรับสมาชิก ที่นำส่งเงินเข้ากองทุนและการจ่ายเงินให้แก่สมาชิกที่สิ้นสมาชิกภาพ โดยผู้รับรองมูลค่าต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
๙. นายทะเบียนสมาชิก
ทำหน้าที่รับเงินจากนายจ้างเข้ากองทุน จ่ายเงินจากกองทุนให้สมาชิกที่ลาออก จัดทำบัญชีรายชื่อสมาชิก จำนวนเงินสะสม เงินสมทบและผลประโยชน์ของสมาชิกแต่ละราย และจัดส่งรายงานรายตัวสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้สมาชิกทราบทุกงวด ๖ เดือนของปีปฏิทิน โดยรายงานจะต้องแสดงจำนวนหน่วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มูลค่าต่อหน่วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มูลค่าของเงินสะสมของสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบของนายจ้าง พร้อมทั้งผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทจัดการมักจะทำหน้าที่นี้เอง แต่ก็อาจมอบหมายให้บริษัทอื่นที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ทำหน้าที่แทนก็ได้ โดยที่ผู้ปฏิบัติการกองทุนทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก ดังนั้น จึงมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า "นายทะเบียนสมาชิก”
รูปแบบกองทุน
โดยทั่วไปแล้วรูปแบบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมี 2 ประเภท ได้แก่ กองทุนนายจ้างรายเดียว(single fund) หรือกองทุนเดี่ยว และกองทุนหลายนายจ้างร่วมกันจัดตั้ง (pooled fund) หรือกองทุนร่วม การที่จะเลือกเป็น Single Fund หรือ Pooled Fund คณะทำงานต้องพิจารณาดูให้ถ้วนถี่ในหลาย ๆ เรื่อง ลองเอาปัจจัยที่รวบรวมจากการสำรวจข้อมูลในขั้นตอนแรกมาชั่งน้ำหนักดูก่อน หากนายจ้างไม่ได้มีเงื่อนไข ขนาดและความต้องการที่ซับซ้อนมาก ก็อาจจะเหมาะสมกับการรวมตัวอยู่เป็นส่วนหนึ่งของ Pooled Fund ซึ่งหากเทียบกับการซื้อเสื้อผ้า ก็เข้าตำรา "เหมาโหลถูกกว่า" ด้วยมีระบบการบริหารที่ร่วมกันเฉลี่ยค่าใช้จ่ายได้ ในขณะที่ระบบ Single Fund ออกจะเป็นระบบ "สั่งตัด" ที่ทำเพื่อให้พอดีตัวคุณ โดยเฉพาะบริการหรือเงื่อนไขความต้องการที่สามารถกำหนดได้เอง แต่นั่นคือกองทุนต้องแบกรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้เองทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ขนาดเงินของกองทุนขึ้นอยู่กับการตกลงกับบริษัทจัดการด้วย
กลไกสำคัญของการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็คือ คณะกรรมการกองทุน ซึ่งจะมีที่มาจาก 2 ฝ่ายสำคัญ คือ กรรมการกองทุนฝ่ายนายจ้าง มาจากการแต่งตั้งของนายจ้าง และกรรมการกองทุนฝ่ายลูกจ้างมาจากการเลือกตั้งของลูกจ้างในฐานะสมาชิกกองทุน ซึ่งคณะกรรมการกองทุนของกองทุนเดี่ยวและ Pooled Fund จะมีบทบาทที่แตกต่างกัน
คณะกรรมการกองทุนในระบบกองทุนเดี่ยว จะมีหน้าที่ในการคัดเลือกและทำสัญญากับบริษัทจัดการ ผู้รับฝากทรัพย์สิน ผู้สอบบัญชี เสนอแก้ไขข้อบังคับกองทุน รวมทั้งประสานงานกับบุคคลอื่น ๆ
คณะกรรมการกองทุนในระบบกองทุนร่วม คณะกรรมการกองทุนของแต่ละบริษัทจะมีบทบาทในด้านการกำหนดหรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเฉพาะส่วนของบริษัทตน เช่น อัตราเงินสะสมและสมทบ การจ่ายเงินสมทบ และผลประโยชน์เมื่อสิ้นสมาชิกภาพ ในขณะที่งานหลักในด้านการบริหาร การกำหนดนโยบายและข้อบังคับหลักจะตกอยู่กับบริษัทจัดการ
อย่างไรก็ดี นอกจากจะทำหน้าที่ต่าง ๆ เองแล้ว คณะกรรมการกองทุนยังสามารถมอบหมายให้บริษัทจัดการทำหน้าที่แทนได้ในส่วนของการคัดเลือกผู้รับฝากทรัพย์สิน ผู้สอบบัญชี รวมทั้งมอบหมายให้บริษัทจัดการเป็นตัวแทนในการยื่นขอจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือขอแก้ไขข้อบังคับกองทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต.



0 ความคิดเห็น: